ภาคจ่ายไฟนี้นะครับ เรียกอีกอย่างหนึ่งก็คือ เพาเวอร์ ซัพพลาย นะครับ คือจะทำการจ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับ วงจรของเครื่องรับโทรทัศน์ครับ การทำงานก็จะเป็นการนำไฟ เอซี ก็คือไฟบ้านของเรานั่นเองครับ นำไปเปลี่ยนเป็นไฟ ดีซี แล้วจากนั้นจึงทำการจ่ายไปเลี้ยงวงจรครับ
• วงจรเร็กติไฟเออร์ แบบธรรมดา
แบบ นี้จะเป็นวงจรพื้นฐานของเร็กติไฟเออร์นะครับ ซึ่งจะทำการเปลี่ยนจากไฟ เอซี เป็น ไฟดีซี จากนั้นก็นำไปเลี้ยงวงจรต่างๆ ครับซึ่งวงจรลักษณะนี้นะครับ ถ้าหากว่า ไฟเอซี เปลี่ยนแปลง ไฟดีซี นั้นก็จะเปลี่ยนแปลงตามไปด้วยครับ ซึ่งวงจรเร็กติไฟเออร์ แบบนี้ปัจจุบันไม่นิยมใช้กันแล้วครับ
• วงจรเร็กติไฟเออร์แบบ เร็กกูเลเตอร์
วงจรเร็กติไฟเออร์แบบ เร็กกูเลเตอร์ นี้นะครับก็เป็นวงจรที่พัฒนามาจาก เร็กติไฟเออร์ แบบธรรมดาครับ เพราะ เร็กติไฟเออร์ แบบธรรมดานั้น ถ้าหากไฟเอซี ไม่คงที่ เช่น แรงดันเพิ่มขึ้น แรงดันลดลง ไฟดีซีที่ได้จากวงจรนี้ก็จะไม่คงที่ตามไปด้วยครับ ดังนั้นวงจรเร็กติไฟเออร์แบบเร็กกูเลเตอร์จึงทำการ แก้ไข้ข้อบกพร่องตรงนี้ครับ นั้นก็คือ ไม่ว่าไฟเอซี จะเปลี่ยนแปลงอย่างไร ไฟดีซีที่ ออกมา ก็จะคงที่เสมอครับ ซึ่งจะทำให้การทำงานของวงจรนั้นเป็นไปอย่างถูกต้องโดยเฉพาะวงจรที่ใช้ ไอซี เพราะไอซี นั้นต้องให้แรงดันที่คงที่เสมอ ครับ
• เพาเวอร์ ซัพพลาย แบบสวิตช์ชิ่ง
ใน ปัจจุบันนี้นะครับ เพาเวอร์ซัพพลายที่ใช้ในเครื่องรับโทรทัศน์ ส่วนมากจะเป็นแบบสวิตช์ชิ่ง ในด้านลักษณะการทำงานของ เพาเวอร์ ซัพพลาย แบบสวิตช์ชิ่ง โดยทั่วๆ ไปแล้วก็มีคุณสมบัติดังนี้ครับ
• ข้อแรกนี้นะครับคือในด้านแรงดันไฟที่อินพุตนี่นะครับ ในบางครั้งก็อาจจะไม่คงที่ได้ครับ อย่างเช่น ไปเกิน หรือไฟตก เช่นนี้เป็นต้นนะครับ แต่แรงดันไฟที่เอาต์พุตนี้ก็จะคงที่เสมอครับ
• ในข้อนี้นะครับก็คือว่า วงจรสวิตช์ชิ่งนี้จะทำงานที่ความถี่ที่สูงมากครับ ซึ่งใกล้เคียงกับความถี่ภาคฮาร์ริซอนตอล ครับ ดังนั้นนะครับ จึงทำให้ง่ายต่อการจัดระบบกรองกระแสครับ คือ เพียงแค่ใช้ตัวเก็บประจุค่าต่ำๆ ก็ทำให้กระแสเรียบพอแล้วครับ
• ในข้อที่สามนี้นะครับก็คือ ทรานสฟอร์เมอร์ สวิตช์ชิ่ง นี้นะครับ จะมีขนาดเล็กมากครับ เมื่อเทียบกับทรานสฟอร์เมอร์ ในวงจรจ่ายไฟทั่วๆ ไป ครับ
• และในข้อที่สี่นี้นะครับ คือ จะมีวงจรรักษาความปลอดภัยครับ อย่างเช่น เวลาที่โหลดขาด หรือ ว่าโหลดช็อต วงจรนี้ก็จะหยุดตัดไฟเองโดยอัตโนมัติครับ
ที่มา http://www.kingsolder.com/tv/power_supply.asp
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น